บันทึกผลการเรียนรู้ประจำสัปดาห์
วิชา การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย วันที่ 5 มีนาคม 2558
ชื่อ นางสาววีนัส ยอดแก้ว กลุ่มเรียน 106 เวลา 13.10 น. - 16.40 น.

ความรู้ที่ได้รับ
* กิจกรรมก่อนเข้าสู่บทเรียน
อาจารย์แจกถุงมือให้นักศึกษาคนละ 1 ข้าง แล้วให้ใส่ไว้ในข้างที่ไม่ถนัด จากนั้นให้ใช้มือข้างที่ถนัดวาดรูปมือของตนเองข้างที่ใส่ถุงมืออยู่และต้องวาดรายละเอียดของมือนั้นให้เหมือนที่สุดโดยห้ามถอดถุงมือออกมาดู
ชึ่งกิจกรรมนี้ทำให้รู้จักการสังเกต เปรียบเสมือนการสังเกตเด็กที่จะต้องมีการจดบันทึกตลอดเวลา ไม่ควรสังเกตแล้วจำเพียงอย่างเดียว เพราะอาจจะลืมสิ่งที่สังเกต
* เข้าสู่บทเรียนเรื่อง การสอนเด็กพิเศษและเด็กปกติ
การเข้าใจภาวะปกติ : เด็กมักมีคล้ายคลึงกันมากกว่าแตกต่างกัน ครูจะต้องเรียนรู้ มีปฏิสัมพันธ์กับเด็กปกติและเด็กพิเศษ รู้จักเด็กแต่ละคนและมองเด็กให้เป็นเด็ก
การคัดแยกเด็กที่มีพัฒนาการช้า : การเข้าใจพัฒนาการของเด็กจะช่วยให้ครูสามารถมองเห็นความแตกต่างของเด็กแต่ละคนได้ง่าย
ความพร้อมของเด็ก
- วุฒิภาวะ เด็กที่มีอายุใกล้เคียงกันจะมีวุฒิภาวะที่ไม่ค่อยแตกต่างกัน
- แรงจูงใจ เด็กแต่ละคนนั้นจะมีแรงจูงใจที่แตกต่างกัน
- โอกาส เด็กทุกคนมีโอกาสที่เท่าเทียมกัน รวมทั้งเด็กพิเศษด้วย
การสอนโดยบังเอิญ : เป็นการสอนที่เด็กเป็นฝ่ายเริ่ม เด็กเข้าหาครูมากเท่าไหร่ ยิ่งมีโอกาสในการสอนมากขึ้นเท่านั่น เด็กจะค้นพบปัญหาด้วยตนเองและครูมีหน้าที่คอยให้คำแนะนำ ชี้แนะ
อุปกรณ์ เด็กพิเศษจะเรียนรู้จากการสังเกตและเลียนแบบเด็กปกติและเด็กปกติจะเรียนรู้ที่จะช่วยเหลือเด็กพิเศษ ของเล่นของเด็กควรเป็นของเล่นที่มีลักษณะง่ายๆไม่ตายตัวใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น บล็อก ดินน้ำมัน เป็นต้น
ตารางประจำวัน : เด็กพิเศษจะไม่สามารถยอมรับการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ทำอยู่เป็นประจำได้ ตารางควรเรียงลำดับเป็นขั้นตอนและทำนายได้ ทำให้เด็กรู้สึกปลอดภัยและมั่นใจ การสลับทำกิจกรรมที่อยู่อย่างเงียบๆกับกิจกรรมที่เคลื่อนไหวมากๆควรคำนึงถึงความเหมาะสมของเวลา
ความยืดหยุ่น : การแก้แผนการสอนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ยอมรับขอบเขตความสามารถของเด็ก
การใช้สหวิทยาการ : ใจกว้างต่อคำแนะนำของบุคคลในอาชีพอื่นๆ สร้างความสัมพันธ์ระหว่างการบำบัดกับกิจกรรมในห้องเรียน
เทคนิคการให้แรงเสริม : ตอบสนองด้วยวาจา พยักหน้ารับ ยิ้ม ฟัง สัมผัสทางกาย และการให้ความช่วยเหลือหรือร่วมกิจกรรมกับเด็ก
การแนะนำหรือบอกบทของครู : การย่อยงาน จัดลำดับความยากง่ายของงาน เป็นการเสริมแรงให้เด็กค่อย ๆ ก้าวไปสู่ความสำเร็จ
การสอนแบบก้าวไปข้างหน้า หรือ การสอนย้อนมาจากข้างหลัง ซึ่งควรสอนทั้ง 2 แบบ ควบคู่กันไป
การลดหรือหยุดแรงเสริม งดการให้แรงเสริมกับเด็กที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทำอย่างอื่นและไม่สนใจเด็ก เอาอุปกรณ์หรือของเล่นออกจากเด็ก เอาเด็กออกจากการเล่น
สิ่งที่นำไปพัฒนา
นำไปใช่เป็นแนวทางในการสอนเด็กพิเศษและเด็กปกติได้ นำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้กับเด็กในเรื่องการเข้าใจเด็ก การคัดแยกเด็กที่มีพัฒนาการช้า ความพร้อมของเด็กแต่ละคน การเสริมแรง ซึ่งเนื้อหาเหล่านี้มีประโยชน์สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการสอนได้จริง นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นแนวทางในการศึกษาค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการสอนเด็กพิเศษและเด็กปกติมากยิ่งขึ้น
การประเมินผล
ตนเอง : เข้าห้องเรียนสายเล็กน้อย เนื่องจากติดธุระเรื่องหอพัก แต่งกายเรียบร้อย ตั้งใจฟังและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมและตอบคำถามในชั้นเรียน
เพื่อน : ตรงต่อเวลา ตั้งใจเรียนให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมในชั้นเรียน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น